อัลบัม

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2550

การทำธุระกิจบนเครือข่าย



เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสาร ทำให้วิธีการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนไปมาก การดำเนินธุรกิจสมัยใหม่ ต้องใช้เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ และสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อความคล่องตัวและรวดเร็ว จนในปัจจุบันมีผู้กล่าวถึงวิธีการดำเนินธุรกิจที่ความเร็วแสง (CALS-Commercial at Light Speed) หรือระบบธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์
การทำธุรกิจที่ความเร็วแสง
"แสง" เดินทางได้ด้วยความเร็ว 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ใช้ในระบบสื่อสารทั่วไปก็มีความเร็วเท่ากับแสง เราพูดโทรศัพท์ทางไกลข้ามประเทศใช้ความเร็วเท่ากับแสง สัญญาณสื่อสารอาจผ่านไปบนเส้นลวดตัวนำ เปลี่ยนเป็นคลื่นไมโครเวฟยิงผ่านดาวเทียม หรือถูกเปลี่ยนไปเป็นลำแสงวิ่งไปในเส้นใยแก้วนำแสง ผ่านใต้มหาสมุทร เชื่อมโยงประเทศต่าง ๆ เข้าด้วยกัน สัญญาณสื่อสารเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เดินทางด้วยความเร็วเท่ากับแสง
เมื่อนำคลื่นแสง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามาใช้ประโยชน์ ก่อให้เกิดระบบสื่อสารความเร็วสูงครอบคลุมทั่วโลก จนปัจจุบันเกิดเครือข่ายคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงกัน ดังตัวอย่างเช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
บริษัทที่สามารถตั้งร้านค้าของตนเองไว้บนอินเทอร์เน็ตโดยเขียนเป็นโฮมเพจ อาจนำเสนอสินค้าและบริการต่าง ๆ ลูกค้าสามารถขอใช้บริการโดยเข้ามาชมสินค้าที่เสนอ หรือซื้อสินค้าโดยใช้ดิจิตอลแคช (Digital Cash) หรือการจ่ายเงินผ่านทางบัตรเครดิต ทำให้เกิดบริการช็อปปิ้งบนเครือข่าย ธุรกิจบริการหลายอย่างใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการให้บริการ เช่น การสั่งพิซซ่า เราสามารถใช้บริการได้โดยเรียกเข้าไปยังโฮมเพจของบริษัทพิซซ่า เลือกดูรายการอาหาร หากต้องการสั่ง ก็สามารถกรอกข้อมูลใบสั่งได้ทันที การให้บริการบนเครือข่ายนี้เป็นหนึ่งในการดำเนินธุรกิจด้วยความเร็วแสง



โฮมเพจของบริษัทพิซซ่า



ลองนึกดูว่า ถ้าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแพร่หลาย ทุกบ้านเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายได้สะดวก สิ่งที่จะเป็นไปได้คือ ขนาดของที่ทำงานในบริษัทจะเล็กลง แรงงานจะกระจายไปอยู่จุดต่าง ๆ โดยให้ต่างคนต่างทำงานที่บ้าน แล้วติดต่อผ่านทางเครือข่าย การทำธุรกิจด้วยความเร็วแสงนี้ จะทำให้รูปแบบขององค์กรปรับเปลี่ยนไปอย่างเด่นชัด
ในปัจจุบันการดำเนินธุรกิจด้วยความเร็วแสงนี้ ข้อมูลข่าวสารของสินค้าจะต้องส่งไปยังผู้บริโภคที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เครือข่ายคอมพิวเตอร์จะเป็นตัวกลางที่ทำให้สามารถเลือกส่งไปยังเป้าหมายได้ ผู้บริโภคสามารถแสดงความคิดเห็นหรือความต้องการ ทำให้บริษัทได้สภาพการติดต่อสื่อสารแบบสองทางและเป็นการโต้ตอบที่รวดเร็ว
บริษัทขนส่งรายใหญ่ชื่อ "เฟเดอรัลเอกซ์เพรส" ใช้เครือข่ายเพื่อให้บริการลูกค้าเรียกเข้ามาที่โฮมเพจของตน ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะของพัสดุที่ให้บริษัทจัดส่ง สามารถตรวจสอบได้ว่าถึงที่หมายปลายทางแล้วหรือยัง การดำเนินธุรกิจยุคใหม่จึงต้องมีการโต้ตอบและให้บริการที่รวดเร็ว
ยุคแห่งการเสมือนจริง (Virtual)
ลองนึกถึงสภาพการจราจรในเมืองใหญ่ ๆ การเดินทางไปมาเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ดีว่าต้องเสียเวลากับจราจรติดขัด และความน่าเบื่อที่ต้องผจญสังคมข่าวสารจะเข้ามาแก้ปัญหานี้ทางหนึ่ง การดำเนินธุรกิจด้วยความเร็วแสง จะทำให้เกิดระบบ "สำนักงานเสมือน (Virtual Office)" ระบบการค้าขายจะใช้เครือข่ายมากขึ้น เกิดระบบที่เรียกว่า "ไซเบอร์มอลล์ (Cyber mall) หรือไซเบอร์ช็อปปิ้ง" เป็นต้น
เทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดความร่วมมือกันมากขึ้น ลดช่องว่างระหว่างชนบทกับในเมือง โครงสร้างการตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะเป็น Virtual Enterprise หรือการจัดสร้าง "องค์กรเสมือน" บนเครือข่ายที่เชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข่าวสารกันได้ง่าย โดยไม่มีความจำเป็นต้องเห็นหน้ากัน
เว็บ : หัวใจสำคัญของธุรกิจ Virtual
การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web
ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียนภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มีอยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซท์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธีการตั้งชื่อแตกต่างกัน



ร้านขายต้นไม้จริงบนเว็บ


เว็บไซท์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกัน บางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซท์เป็นแหล่งโฆษณาสินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจมาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงาม ดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่านหรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บจึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู
เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญคือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ
ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บ โดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้า บางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้าโดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่า ไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต
ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การให้คำปรึกษาการบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น
แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก ทั้งนี้เพราะเครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัดปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น
ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่าย จึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิตทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช ้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก
นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และการถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้มาก
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค่าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม
กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐานการจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซท์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซท์ในระดับต่าง ๆ กันได้
การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้างความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป
กำลังเป็นสังคมสารสนเทศ
ถนนของข้อมูลข่าวสารทุกสายมุ่งสู่เทคโนโลยีดิจิตอล เราสามารถแทนข้อมูลตัวอักษรด้วยหลักการเชิงตัวเลขที่เรียกว่า "ดิจิตอล" ความก้าวหน้าทำให้เราใช้ข้อมูลดิจิตอลแบบหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ข้อความเสียง รูปภาพ หรือแม้แต่วิดีโอ
ดิจิตอลเป็นคำพื้นฐานที่มีความหมาย "เชิงตัวเลข" หรือสามารถนำมาคำนวณได้ การที่เราแทนข้อมูลข่าวสารทุกอย่างด้วยหลักการเชิงตัวเลข เพราะสื่อสัญญาณไฟฟ้าที่ใช้มีลักษณะที่เหมาะสมกับการแทนเลข "0" หรือ "1" ได้ง่าย
การประมวลผลของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ใช้หลักการสวิตช์ของตัวเลข "0" และ "1" และเรายังสามารถนำตัวเลขดิจิตอลเหล่านี้สื่อสารไปทางสายหรือไร้สายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การใช้งานเชิงตัวเลขหรือใช้หลักการดิจิตอลจึงแพร่หลาย
หลักการพื้นฐานที่สำคัญคือ การแทนข้อมูลทุกอย่างด้วยหลักการทางดิจิตอล เช่น ตัวหนังสือทุกตัวสามารถแทนเป็นรหัสดิจิตอล คือประกอบด้วยกลุ่มตัวเลข "0" และ "1" ข้อมูลเสียงพูดก็แทนเป็นรหัส แล้วส่งกระจายด้วยสื่อทางไฟฟ้า ภาพหรือแม้แต่ข้อมูลวิดีโอก็ทำในลักษณะเดียวกันคือ แทนเป็นรหัสตัวเลขเสียก่อนแล้วจึงดำเนินการประมวลผลหรือสื่อสาร
จุดเด่นของการแทนข้อมูลทุกชนิดเป็นตัวเลข เพราะข้อมูลเหล่านี้สามารถประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ได้ง่าย สามารถสวิตช์สับเปลี่ยนช่องทางสื่อสาร หรือแม้แต่การส่งผ่านไปยังที่ห่างไกลได้ง่าย
การทำงานเชิงดิจิตอลจึงใช้หลักการสวิตช์ความเร็วสูง ปัจจุบันเราสามารถสวิตช์ข้อมูลตัวเลขได้หลายร้อยล้านครั้งต่อหนึ่งวินาที ซีพียูในปัจจุบันทำงานที่ความถี่ของสัญญาณนาฬิกาที่เคาะจังหวะการสวิตช์ด้วยความเร็วสูงหลายร้อยล้านครั้งต่อวินาที
การสวิตช์สัญญาณสื่อสารในระบบสื่อสารต่าง ๆ ก็ใช้หลักการทางดิจิตอล การสื่อสารด้วยหลักการเฟรมรีเลย์ใช้หลักการนำข้อมูลข่าวสารเป็นตัวเลขมารวมกันเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "เฟรม" แล้วสวิตช์เลือกเส้นทางเพื่อส่งไปยังปลายทาง การสื่อสารด้วยหลักการทางดิจิตอลจึงมีความแน่นอน แม่นยำ และรวดเร็ว
ด้วยเหตุนี้เองสังคมสมัยใหม่จึงเป็นสังคมที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ดิจิตอลมากมาย การที่เราใช้เครื่องมือสมัยใหม่ที่มีคอมพิวเตอร์ควบคุม ทำให้การทำงานมีลักษณะทำตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ หรือทำงานแบบอัตโนมัติได้ดีขึ้น
สังคมสมัยใหม่จึงเป็นสังคมที่ใช้ข้อมูลดิจิตอล ชีวิตในบ้านที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่ ตั้งแต่เตาอบเครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่มีระบบควบคุมการทำงานที่โปรแกรมได้ โทรศัพท์ที่ใช้ในปัจจุบันก็แปลงสัญญาณเสียงของเราเป็นดิจิตอล ประมวลผลหาเส้นทางเชื่อมโยงไปยังผู้พูดที่ต้องการเรียกติดต่อได้ เอกสารข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้ในสำนักงานก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้เวิร์ดโปรเซสเซอร์ สามารถรับส่งแฟ้มระหว่างกัน สื่อสารทางด้านอิเล็กทรอนิกส์เมล์ จนกล่าวกันว่าในไม่ช้า แม้แต่การอ่านหนังสือพิมพ์ ก็เรียกดูผ่านจอภาพและเรียกอ่านได้จากที่บ้าน
บทบาทของการใช้งานแบบดิจิตอลนี้ มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาก สื่อผสมที่เรียกว่า "มัลติมีเดีย" กำลังมีบทบาทจนหลายคนอาจจะเข้าใจว่าดิจิตอลจะเข้ามาแทนทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ที่เป็นข้อมูลข่าวสาร
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก เช่น อินเทอร์เน็ต ก็รับส่งข้อมูลในรูปแบบที่เป็นข้อมูลเชิงตัวเลข การจินตนาการผ่านเข้าไปในเครือข่ายเพื่อติดต่อสื่อสารกัน ทำให้เกิดรูปแบบของสังคมที่เรียกว่า "ไซเบอร์สเปซ" เกิดการทำงานในลักษณะเสมือนจริงที่เรียกว่า VR (Virtual Reality)
การที่เราใช้หลักการทางดิจิตอล เพราะเราใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ทำงานด้วยหลักการสวิตช์ตัวเลข "0" และ "1" ซึ่งเป็นข้อจำกัดของเทคโนโลยี เราจึงเปลี่ยนแปลงข้อมูลข่าวสารทุกอย่างให้เข้ากับข้อจำกัดทางวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ลองนึกดูว่าเมื่อเรามองรูปภาพ เราสามารถเก็บข้อมูลข่าวสารเข้ามาแปลความที่สมองได้มากมาย ข้อมูลข่าวสารเหล่านั้นจะแปลเป็นดิจิตอลได้หมด หรือสิ่งที่เราแทนทางดิจิตอล จึงมีข้อจำกัดอยู่มากและมิอาจแทนทุกสิ่งทุกอย่างได้หมด
แต่อย่างไรก็ตามการใช้หลักทางดิจิตอลก็ทำให้มีผลิตผลของการใช้งานได้มากมาย สังคมในปัจจุบันเป็นสังคมไร้พรมแดน ข้อมูลข่าวสารจากประเทศหนึ่งสื่อสารถึงอีกประเทศหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว การติดต่อของประชาคมโลกในปัจจุบันจึงปราศจากพรมแดนกั้น สังคมสมัยใหม่จึงเป็นสังคมของการใช้ข่าวสารแบบดิจิตอลที่กระจายถึงกัน แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า ตัวเลข "0" และ "1" สามารถทำให้สังคมโลกเปลี่ยนแปลงได้มากขนาดนี้ สังคมที่กำลังจะกลายเป็นสังคมแห่งโลกเสมือนจริงในไซเบอร์สเปซ



ธุรกิจโฆษณาบนเว็บเพิ่มความตื่นตัวขึ้นทุกทีแต่การซื้อขายยังเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวของผู้ใช้..ระบบความปลอดภัย จึงเป็นสิ่งที่นักธุรกิจบนเว็บต้องหาทางสร้างความมั่นใจมิฉะนั้น การแจ้งเกิดธุรกิจบนเว็บ คงเกิดยากโดยแท้
การเติบโตของจำนวนโฮมเพจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อกันว่าในปัจจุบันมีจำนวนโฮมเพจมากเกินกว่าหนึ่งล้านโฮมเพจ โฮมเพจเหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เรารู้จักกันในนาม WWW-World Wide Web
ชื่อของโฮมเพจหรือที่เรียกว่า เว็บไซท์ แต่ละแห่งต้องไม่ซ้ำกัน มีการขึ้นทะเบียนชื่อ ใครจดทะเบียนชื่อได้ก่อนก็ได้ใช้ ผู้จดทะเบียน ภายหลังไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำได้ สร้างปัญหาให้กับองค์กรบางองค์กรที่ต้องการใช้ชื่อที่สื่อความหมายกับองค์กรมากที่สุด แต่ไปซ้ำกับชื่อที่มี อยู่แล้ว หลักการตั้งชื่อยังไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก เพราะชื่อเป็นการแบ่งแยกตามกลุ่ม ดูจากชื่อเว็บไซส์ของสถานีโทรทัศน์ไทยห้าแห่ง ก็มีวิธี การตั้งชื่อแตกต่างกัน
เว็บไซส์แต่ละแห่งที่ตั้งกันขึ้นมามีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจที่แตกต่างกันบางแห่งเป็นเสมือนสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร บางแห่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า บางแห่งใช้เป็นสื่อสำหรับการโต้ตอบกับลูกค้า ปัจจุบันมีการใช้เว็บไซส์เป็นแหล่งโฆษณา สินค้า บางแห่งยอมให้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง ธุรกิจบนเว็บจึงดูจะมีความตื่นตัว และได้รับความสนใจ มาก บริษัทหรือองค์กรทางธุรกิจทุกองค์กรจึงต้องตั้งเว็บของตนเอง มีการสร้างศิลปะบนหน้าจอภาพให้ดูสวยงามดึงดูดให้อยากเข้าไปอ่าน หรือชม บางแห่งมีวิธีการล่อด้วยการขึ้นข้อความที่เร้าใจเพื่อให้คลิกเข้าไปดู เทคนิคและวิธีการเขียนเว็บ จึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการใช้กราฟฟิก สีสัน เสียง และภาพเคลื่อนไหวประกอบกัน หรือบางแห่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเรียกร้องให้คนเข้ามาเปิดดู
เว็บของแต่ละองค์กรจึงเหมือนกับเอกสารเผยแพร่ขององค์กรที่ไม่ต้องใช้กระดาษ ข้อเด่นของเอกสารเหล่านี้คือเป็นเอกสารที่ ผลิตขึ้นมาได้ง่าย รวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เป็นเอกสารที่สามารถส่งผ่านทางเครือข่ายไปยังที่ต่าง ๆ บนเครือข่ายได้ง่าย และที่สำคัญ คือรูปแบบของเอกสารสามารถแสดงผลข้อมูลแบบมัลติมีเดีย จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ
ด้วยความพยายามที่จะทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บโดยการตั้งเป็นห้างร้านเพื่อโฆษณาขายสินค้าบางแห่งที่ขายซอฟต์แวร์มีการให้ ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่สามารถ์ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ดูก่อนได้ หากพอใจค่อยสั่งซื้อ การตั้งร้านค้าขายสินค้ามีมากมายตั้งแต่การขายหนังสือ สิ่งพิมพ์ ซีดี เทป ของใช้ในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ การสั่งซื้อสินค้ามีแม้แต่การจัดส่งสินค้า โดยตรง เช่น ร้านขายพิซซ่าไปจนถึงการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ส่วนการจัดเก็บเงินใช้วิธีการตัดโอนทางบัตรเครดิต
ลักษณะการทำธุรกิจบนเครือข่ายเว็บจะทำกันในรูปแบบการโต้ตอบเพื่อชี้แจง หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การให้คำ ปรึกษา การบริการหลังการขาย รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้สินค้าเพื่อนำเอาข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าให้ดียิ่งขึ้น
แต่การซื้อขายผ่านทางเครือข่ายเว็บยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเครือข่ายเว็บยัง จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพราะ เครือข่ายเว็บเป็นเครือข่ายสาธารณะ การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไปในเครือข่ายมีลักษณะที่เสี่ยง เพราะรหัสเหล่านี้ถ้าตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ อาจนำเอาไปใช้ในทางมิชอบได้ ผู้สั่งซื้อสินค้าทางเครือข่ายเว็บยังมีความรู้สึกไม่กล้าที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิต ส่วนร้านค้าก็ยังมีการจำกัด ปริมาณเงินในการสั่งซื้อสินค้า เช่น ในวงเงินไม่เกินหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นต้น
ข้อจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจึงต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น บริษัทผู้ดำเนินการบัตรเครดิต ทั้งหลายเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์บนเครือข่ายเพื่อพัฒนาลายเซ็นดิจิตอล ที่ใช้สำหรับตรวจสอบและยืนยันตัว บุคคล หากโครงการนี้สำเร็จและนำออกมาใช้ได้ หนทางของการทำธุรกิจบนเว็บจะมั่นใจและแพร่หลายได้อีกมาก
นอกจากเรื่องลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยังมีเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การเข้ารหัส หรือที่เรียกว่า "เอ็นคริพชั่น" และ การถอดรหัส การป้องกันการบุกรุกเข้าไปโจรกรรมข้อมูลบนเครือข่าย เรื่องเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ได้มาก
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องการพัฒนาเทคนิคทางเว็บอีกประการหนึ่ง คือ มีการนำเอาเว็บมาใช้ในธุรกิจสินค้ายั่วยุกามารมณ์กันมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้ให้บริการได้กว้างไกล ผู้ใช้อยู่ที่ใดก็สามารถเรียกเข้าหาได้ มีการให้บริการกับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ มีการให้บริการ กับสมาชิกโดยการเก็บเงินค้าบริการ นับเป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อศีลธรรมและขนบธรรมเนียมอันดีงาม
กลุ่มผู้กำหนดมาตรฐานกลางของ WWW ที่มหาวิทยาลัย MIT แห่งสหรัฐอเมริกาจึงได้ตกลงกัน และกำลังจะพัฒนามาตรฐาน การจัดระดับเว็บเพื่อกำหนดประเภทของเว็บไซส์ต่าง ๆ และให้บราวเซอร์มีระบบการป้องกันเพื่อให้มองเห็นเว็บไซส์ในระดับต่าง ๆ กันได้ หรือจำกัดกลุ่มผู้ใช้เฉพาะสมาชิก
การทำธุรกิจบนเว็บจึงเป็นธุรกิจที่กว้างไกลและไร้พรมแดน ผู้ตั้งร้านขายของบนเว็บหนึ่งแห่งสามารถบริการลูกค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่า ลูกค้าจะอยู่ที่ใดบนเครือข่ายก็สามารถเข้าถึงได้
ธุรกิจบริการบนเว็บจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล และสร้าง ความเชื่อมั่นว่าการส่งเงินผ่านบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ น.ส. วราภรณ์ ว่องวรรณกร อายุ 20 ปี เกิดวันที่ 19 พ.ย. 29 บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 2 ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี 70150 กำลังศึกษาอยู่ เอกคอมพิวเตอร์ศึกษา ปี 3

*********_AUM_********

*********_AUM_********